วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

ทฤษฏีสัมพันธภาพและอะกีดะ

     ผู้เขียนเขียนบทความนี้ขึ้นมาเนื่องด้วยผู้เขียนมีโอกาสได้อ่านหนังสือ Fundamental of Tuaheed ของ ดร.บิลาล ฟิลลิปส์ ซึ่งแปลเป็นไทยโดย อบุล ลัยษ์  ในประเด็นการตั้งภาคีต่ออัลลอฮในแง่ของ อัสมาอ์ วัศซีฟาต หรือในแง่ของพระนามซึ่งเป็นคุณลักษณะของพระองค์ ในหนังสือเล่มดังกล่าว ดร.บิลาล ฟิลลิปส์ ได้กล่าวเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องทฤษฏีสัมพันธภาพของ อัลเบิร์ต ไอส์สไตน์ นักฟิสิกส์เชื้อสายยิว ชาวเยอรมัน ซึ่ง ดร.บิลาล ฟิลิปส์ ได้อธิบายอย่างสั้นๆ แต่อย่างไรก็ตามเป็นการอธิบายที่เข้าใจง่ายโดยทั่วกัน
      อัลเบิร์ต ไอส์สไตน์ ได้แสดงให้เห็นถึงการสมมูลของมวลและพลังงาน  E=mc2  มวลและพลังงานสามารถแปลงกลับ
กันไปมา และมีบทบาทเทียบเท่ากัน (ตัวอย่างเช่น แรงโน้มถ่วงของแอปเปิลที่กำลังหล่น ส่วนหนึ่งเกิดจากพลังงานจลน์ของอนุภาคย่อยซึ่งประกอบเป็นแอปเปิลขึ้นมา) (ที่มา: วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี) จากกฎดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสสารต่างๆยังคงอยู่เสมอ ไม่สลายหายไป เพียงแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น   ซึ่งจากหลักการวิทยาศาสตร์ดังกล่าวได้ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงกับ อัล กรุอาน ที่อัลลอฮกล่าวว่า
 ทุก ๆ สิ่งที่อยู่บนแผ่นดินย่อมแตกดับ(อัรรอฮมาน:26)
จาก(สิ่งซึ่งถูกเชื่อว่าเป็น)กฎดังกล่าวนี้ หมายความว่านักวิทยาศาสตร์กำลังจะบอกว่าสสารทั้งมวลมีอยู่ดังเดิมและคงเดิมตามสภาพต่างๆกลับไปกลับมา กฎดังกล่าวกำลังจะบอกว่าไม่มีอัลลอฮ์  สสารไม่มีผู้สร้างไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดจบ

อัลลอฮฺ คือผู้ทรงสร้างทุกสิ่ง และพระองค์เป็นผู้ทรงดูแลและคุ้มครองทุกสิ่ง(อัซซุมัร:62)
      จากข้อเขียนข้างต้นจุดยืนของชาวอะลิสซุนนะฮ์วัลยามาอะฮ์ คือการไม่ประปฏิเสธหลักการ E=mc2   เพียงแต่เชื่อว่า
นั้นเป็นการอธิบายกระบวนการของสสารภายใต้ทฤษฏีสัมพันธภาพ แต่อย่างไรก็ตามเรามีอะกีดะที่ว่า ทุกสิ่งต้องมีผู้สร้างคืออัลลอฮพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น และพระองค์ทรงมีอำนาจควบคุมทุกสิ่งให้เป็นไปตามประสงค์ของพระองค์(ซึ่งรวมทั้งกฎ E=mc2   ) และวันหนึ่งพระองค์จะทำลายทุกสิ่งลงตามความประสงค์ของพระองค์ 
    ส่วนวิธีการทำลายรูปสภาพต่างๆของสสารต่างๆนั้นไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะแสวงหากระบวนการ(หากไม่มีความสามารถ) แต่เราจะต้องเชื่อว่าทุกสสารจะถูกทำลายตามความประสงค์ของอัลลอฮ์




พระองค์ทรงให้กลางคืนคาบเกี่ยวเข้าไปในกลางวัน และทรงให้กลางวันคาบเกี่ยวเข้าไปในกลางคืน  และทรงให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นประโยชน์ (แก่มนุษย์) ทุกสิ่งโคจรไปตามวาระที่ได้กำหนดไว้ นั่นคือ อัลลอฮฺพระเจ้าของพวกเจ้า  อำนาจการปกครองทั้งมวลเป็นสิทธิ์ของพระองค์ และสิ่งที่พวกเจ้าวิงวอนขออื่นจากพระองค์นั้นพวกมันมิได้ครอบครองสิ่งใดแม้แต่เยื่อบางหุ้มเมล็ดอินทผลัม(อัลฟาฏิร: 13)



ทุก ๆ สิ่งที่อยู่บนแผ่นดินย่อมแตกดับ(อัรรอฮมาน:26)



และในการณ์นั้นมิใช่เป็นการยากแก่อัลลอฮฺเลย(อัลฟาฏิร:17)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น